ทะเลสาปวิคทอเรียเป็นทะเลสาปน้ำจืดขนาดใหญ่ อันดับสองของโลก เมื่อไม่นานมานี้ทะเลสาบวิกตอเรียมีปัญหาเรื่องผักตบชวา ทำให้น้ำเน่าเสีย
 
คนเห็นย่าเลยเอาผักตบชวามาทำปุ๋ยนอกจากจะกำจัดมลภาวะในน้ำแล้วยังเป็นการเพิ่ผลผลิตทางการเกษตรอีกด้วย
 
 
 
การทำปุ๋ยหมักจากผักตบชวา
 
ผักตบชวา เป็นพืชน้ำ (วัชพืช) ที่มีธาตุโปแตสเซียมเป็นจำนวนมาก และธาตุไนโตรเจนและฟอสฟอรัสพอสมควร ขึ้นอยู่กับสภาพของน้ำที่ขึ้น และเมื่อนำผักตบชวามาทำเป็นปุ๋ย จะเป็นการเพิ่มมูลค่าของผักตบชวาให้มีองค์ประกอบ ธาตุอาหารหลักครบ คือ ไนโตรเจน 2.05% ฟอสฟอรัส 1.1% โปแตสเซียม 2.5% ธาตุทั้งสามอย่างนี้จำเป็นแก่การเจริญเติบโตของพืชทุกชนิดในดิน ป้องกันไม่ให้วัชพืชขึ้น และเมื่อสลายตัวก็กลายเป็นอินทรียวัตถุและปุ๋ยให้แก่พืชปลูก
++ วัตถุดิบ ++

1.ผักตบชวา จำนวน 100 ส่วน

2.มูลสัตว์ จำนวน 10 ส่วน

3.น้ำ (ตามความเหมาะสม)

++ วิธีทำ ++

นำผักตบชวาที่เอาขึ้นจากน้ำ นำมากองเป็นชั้นๆ ประกอบผักตบชวา สูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร จากนั้นนำใส่บัวรดน้ำ มารดพอเปียก แล้วใช้เท้าย่ำ โรยทับด้วยมูลสัตว์ ทำซ้ำกันประมาณ 3 ชั้น (แต่ละกองจะทำประมาณ 3 ชั้น) 
จากนั้นนำกระสอบป่านมาคลุมไว้ หมักทิ้งไว้ประมาณ 2 เดือน ระหว่างหมัก ควรกลับกองปุ๋ยหมักทุกๆ 15 วัน โดยเอาส่วนบนลงล่างและส่วนล่างขึ้นบน กลับกองปุ๋ยหมักประมาณ 2 ครั้ง จากนั้นก็ปล่อยให้ค่อยๆ กลายเป็นปุ๋ยหมัก ซึ่งจะมีสีดำคล้ำ ก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้นอกจากนำไปทำปุ๋ยหมักแล้ว ยังสามารถนำผักตบชวามาทำวัสดุคลุมดิน โดยนำผักตบชวาที่เอาขึ้นจากน้ำไปคลุมดิน เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นไว้ในดิน ป้องกันไม่ให้วัชพืชขึ้น และเมื่อสลายตัว ก็กลายเป็นอินทรียวัตถุและปุ๋ยให้แก่พืชปลูก

++ ประโยชน์/การนำไปใช้ ++**สามารถใช้ได้ในปริมาณมากน้อย ตามความเหมาะสม เพราะใช้ในปริมาณมากก็ไม่เกิดผลเสียต่อพืช

1. ช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุให้แก่ดิน ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์

2. ช่วยเปลี่ยนสภาพของดินจากดินเหนียวหรือดินทรายให้เป็นดินร่วนทำให้สะดวกในการไถพรวน

3. ช่วยรักษาความชุ่มชื้นในดินได้ดีขึ้น

4. ทำให้การถ่ายเทอากาศในดินได้ดี

5. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ปุ๋ยเคมีและสามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้

6. ช่วยกระตุ้นให้ธาตุอาหารพืชบางอย่างในดินที่ละลายน้ำยากให้ละลายน้ำง่ายเป็นอาหารแก่พืชได้ดีขึ้น

7. ไม่เป็นอันตรายต่อดินแม้จะใช้ในปริมาณมากๆ ติดต่อกันนานๆ

8. เป็นการนำวัชพืชน้ำมาใช้ให้เกิดประโยชน์