หัวหน้าหน่วยควบคุมไฟป่าที่ดอยสะเก็ด แนะวิธีเพาะเห็ดโคน หรือเห็ดปลวก ที่เข้าใจผิดมาตลอดว่าเพาะไม่ได้ ต้องใช้วิธีเผาป่า แต่ทำได้ง่ายๆ แค่ขุดหลุม หาเศษพืชมากอง ปิดด้วยดินจอมปลวก รดน้ำแล้วรอเวลา
นาย กิติศักดิ์ ปานะโปย หัวหน้าหน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่าเชียงใหม่ และหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.9 (ดอยสะเก็ด) อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ว่า เพื่อนได้แนะนำวิธีเพาะเห็ดปลวก หรือเห็ดโคน มี 4 ข้อ ดังนี้
1. ให้ขุดหลุมลึก 40 ซม. กว้าง ยาว ตามความพอใจ
2. หาเศษไม้ธรรมชาติ ที่ยังไม่ผ่านการ อบ/แช่น้ำยา หรือสารเคมีทุกชนิด ถ้าได้ขี้เลื่อยก็จะดีมากๆ
3. เมื่อใส่เศษวัสดุดังกล่าวเต็มหลุมแล้ว ให้ฝังกลบด้วยดิน ซึ่งขุดมาจากจอมปลวกจนเต็ม เหนือปากหลุม 20 ซม.
4. รดน้ำให้ชุ่มทุกๆ 7 วัน หน้าฝนไม่ต้องรดน้ำ ใช้เวลา 8-15 วัน ฃต่อเดือน ก็จะได้ดอกเห็ดโคนตามต้องการ เป็นการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการจุดไฟเผาป่าได้ เพราะชาวบ้านเข้าใจผิดมาตลอดว่าต้องเผาป่าจึงจะได้เห็ด
คำเตือน ในการเพาะเห็ดโคนเพื่อสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัว ข้อที่ควรระวังคือ ไม่ควรทำหลุมใกล้บ้าน เพราะปลวกจะเข้าบ้าน ก่อให้เกิดความเสียหาย จะได้ไม่คุ้มเสีย
ที่ Big Red Strawberry Farm คาเมรอนไฮแลนด์ ประเทศมาเลเซียมีการตจขัดการพื้นที่ปลูกผักอินทรีย์และสตรอเบอรี่ที่น่าสนใจเลยเอามาเล่าให้ฟัง
เค้าปลูกสตรอเบอรี่ในกระถางที่วางอยู่เหนือพื้นแล้วใช้ระบบน้ำหยด จะได้สะอาดน่ารับประทานและควบคุมโรค ปริมาณน้ำและอาหารได้
ใต้แปลงปลูกสตรอเบอรี่จะปลูกผักอื่นที่สามารถเพิ่มรายได้ หมุนเวียนไปเพื่อใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ใต้แปลงผักอินทรีย์จะมีการปลูกพืชชนิดอื่นด้วย แต่ปลูกในกระถางเพื่อดูแลเรื่องโรคหรือแมลง กรณีที่พืชเสริมมีปัญหาก็ย้ายออกได้
แค่เคล็ดลับง่ายๆ ทำให้เราได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเพราะใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า ใครยังไม่ทำลองทำดูนะ
มทร.ล้านนา วิทยาเขตพิษณุโลก จัดโครงการถ่ายทอดความรู้ทางวัฒนธรรมงานประเพณีสืบสานวิถีการทำนาข้าว (ดำนา) และ กิจกรรมสร้างสรรค์รับน้องดำนา เพื่อให้นักศึกษาใหม่ได้เรียนรู้วิธีการปลูกข้าวแบบดำนา ตระหนักถึงความสำคัญของข้าว เป็นการสานสัมพันธ์อันดีระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง และส่งเสริมให้นักศึกษาร่วมกันอนุรักษ์ประเพณีการลงแขกดำนาให้ดำรงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของชาติไทย
เมื่อเวลา 16.00 น.ของวันที่ 3 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่แปลงนาสาธิตสาขาวิชาพืชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก อาจารย์วริศ จิตต์ธรรม รักษาราชการผู้อำนวยการกองบริหารทรัพยากร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก เป็นประธานเปิดโครงการ “ถ่ายทอดความรู้ทางวัฒนธรรมงานประเพณีสืบสานวิถีการทำนาข้าว (ดำนา) และ กิจกรรมสร้างสรรค์รับน้องดำนา” ปีการศึกษา 2562 โดยมี ว่าที่ร้อยตรีธรรมนูญ ท้าวฮ้าย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกร่าง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกร่างวิทยาคม คณาจารย์ พนักงาน และนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 400 คน ในพื้นที่ จำนวน 4 ไร่
โดยโครงการ “ถ่ายทอดความรู้ทางวัฒนธรรมงานประเพณีสืบสานวิถีการทำนาข้าว (ดำนา) และ กิจกรรมสร้างสรรค์รับน้องดำนา” ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในปีนี้ใช้ข้าวพันธุ์ A1 (เอวัน) ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวที่ได้รับปรับปรุงจากวิทยานิพนธ์ของมหาบัณฑิต ระดับปริญญาโท มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก สามารถต้านทานแมลงศัตรูพืช ได้ดีกว่าพันธุ์พิษณุโลก2 และ พันธุ์ กข47 มีการปลูกในเขตพื้นที่ เพชรบูรณ์ พิจิตร สุโขทัย และพิษณุโลก มีระยะการปลูก 100 - 105 วัน ใช้วิธีการปลูกแบบดำต้นเดี่ยว ระยะห่าง 30 x 25 เซนติเมตร เพื่อใช้เป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวปลูกต่อไป โดยทำการปลูกแบบไร้สารเคมี ตามเอกลักษณ์ “เกษตรปลอดภัย” ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก
โดยก่อนการทำกิจกรรมลงแขกดำนา รศ.ดร.คมสัน อำนวยสิทธิ์ อาจารย์ประจำสาขาพืชศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก บรรยายให้ความรู้เรื่องวิธีการปลูกข้าวแบบดำนา จากนั้น นักศึกษาใหม่ ได้เตรียมตัวและลงพื้นที่เตรียมความพร้อมบริเวณแปลงนาสาธิตสาขาพืชศาสตร์ และพร้อมใจกันประกอบ“พิธีแรกดำนา” กล่าวคำขอขมาพระแม่ธรณี พระแม่คงคา และ พระแม่โพสพ และร่วมลงแขกดำนา ด้วยความสมัครสมานสามัคคี ทั้งนี้ เพื่อให้นักศึกษาใหม่ได้เรียนรู้วิธีการปลูกข้าวแบบดำนา ตระหนักถึงความสำคัญของข้าว เป็นการสานสัมพันธ์อันดีระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง และสิ่งสำคัญเพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาร่วมกันอนุรักษ์ประเพณีการลงแขกดำนาให้ดำรงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของชาติไทย
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก มุ่งเน้นการรับน้องอย่างสร้างสรรค์ ควบคุมไม่ให้เกิดความรุนแรงในการรับน้อง เพื่อให้น้องใหม่ที่เข้ามาศึกษาภายในรั้วมหาวิทยาลัยฯ เกิดความอบอุ่นใจ ความรัก ความสามัคคีระหว่างนักศึกษา ในสถาบัน เกิดความมุ่งมั่นตั้งใจศึกษาเล่าเรียนให้ประสบความสำเร็จเป็นที่ภาคภูมิใจของครอบครัว ซึ่งมหาวิทยาลัยฯ จะสร้างแรงผลักดันในการศึกษาเพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษา มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของสังคม และประเทศชาติ ต่อไป
CR ภาพข่าว คมชัดทั่วไทย
ขนุนพันธุ์ “ขาวมุกสยาม” สีสันแปลกตา เนื้อขาวนวลหวานกรอบ ผู้ขายกิ่งตอนระบุว่า เกิดจากการนำเอาเมล็ดของขนุนพื้นเมืองพันธุ์ดั้งเดิมของไทย แต่ไม่ได้บอกว่าเนื้อหุ้มเมล็ด หรือนิยมเรียกกันว่า “ยวง” เป็นสีอะไร ไปเพาะเป็นต้นกล้า แล้วคัดเอาต้นดีที่สุดไปปลูกเลี้ยงจนต้นโตมีดอกและติดผล
ปรากฏว่า ต้นไม่สูงใหญ่นัก สูงเต็มที่ประมาณ 7-8 เมตรเท่านั้น แตกกิ่งก้านสาขาเป็นพุ่มกว้าง ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับถี่บริเวณปลายยอด ใบเป็นรูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายและโคนใบเรียวและมีขนาดเล็กกว่าใบขนุนทั่วไปอย่างชัดเจน ผิวใบเรียบ สีเขียวสดและเป็นมัน ดอก ออกเป็นกลุ่ม ช่อดอกตัวผู้กับดอกตัวเมียอยู่บนต้นเดียวกัน โดยช่อดอกตัวผู้จะออกที่บริเวณโคนกิ่ง ลำต้น และซอกใบ ลักษณะดอกตัวผู้เป็นแท่งยาวประมาณ 2.5 ซม. ส่วนดอกตัวเมียจะเป็นแท่งกลมๆออกตามลำต้น
ก้านช่อดอกตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าก้านช่อดอกตัวผู้อย่างชัดเจน ดอกตัวผู้จะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวคล้ายกลิ่นส่าเหล้า ดอกตัวเมียไม่มีกลิ่นเลย “ผล” เป็นผลรวม รูปกลมยาว ผลโตเต็มที่มีน้ำหนักเฉลี่ยระหว่าง 13–16 กิโลกรัมต่อผล
ใน 1 ผลจะมีผลย่อยจำนวนมากเรียกว่า “ยวง” หรือเนื้อหุ้มเมล็ดตามที่กล่าวข้างต้น มีซังน้อย และที่แปลกคือ เนื้อหุ้มเมล็ดหรือยวงเป็นสีขาวสดใสตามภาพประกอบคอลัมน์ เนื้อหรือยวงหนา เมล็ดเล็ก เนื้อไม่เละแม้สุกงอม
รสชาติหวานกรอบรับประทานอร่อยมาก จึงถูกตั้งชื่อว่า “ขนุนเนื้อขาวมุกสยาม” ดังกล่าว มีดอกและติดผลดกตามฤดูกาล ขยายพันธุ์ด้วยระบบทาบกิ่ง เสียบยอด และติดตา ทำให้ปลูกแล้วโตเร็วและมีดอกติดผลหลังปลูกเพียงแค่ 3-4 ปีแค่นั้น ปลูกได้ในดินทั่วไป เหมาะจะปลูกเพื่อเก็บเนื้อกินในครัวเรือนหรือเก็บเนื้อขายได้ราคาดีมาก ใคร ต้องการกิ่งตอนแท้ ติดต่อ “คุณมณี สุรัตนะ” หรือ “สวนขนุนนายพล” ที่บ้านเลขที่ 13/1 ต.หนองปลิง อ.หนองแค จ.สระบุรี โทร.08–1928–9214
พืชที่ร้อนแรงที่สุดในตอนนี้สำหรับวงการรักษาโรคต่างๆ คงไม่มีอะไรเท่ากัญชา เพราะได้รับการพิสูจน์แล้วว่าลดความวิตกกังวลและความเครียดบรรเทาความเจ็บปวดอาจนำไปสู่การรักษาโรคหลายสิบชนิด กัญชา ไม่ได้ฮิตเฉพาะในเมืองไทย ในต่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกามรกาอนุญาติให้ปลูกและจำกน่ายอย่างถูกกฏหมายในหลายรัฐมานานแล้ว เนื่องจากสมุนไพรมีคุณสมบัติเป็นยาที่มีการยอมรับกันมากว่า 3000 ปี ไมค์ ไทสัน อดีตนักมวยมืออาชีพแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวทที่ถูกกล่าวขานมากที่สุดคนหนึ่ง เลยตั้งใจที่จะสร้างรีสอร์ทขนาด 400 เอเคอร์หรือประมาณ 1000 ไร่ ! ที่ให้เป็นรีสอร์ทกัญชา
นิตยสาร GQ รายงานว่า รีสอร์ทชื่อ Tyson Ranch จะดำเนินการโดยบริษัท Tyson Holistic Holdings บริษัทที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2559 เพื่อจำหน่ายกัญชาสายพันธุ์และสินค้าที่ผลิตจากกัญชา แม้ว่าผู้เข้าพักรีสอร์ทจะไม่สามารถซื้อผลิตภัณฑ์กัญชาที่รีสอร์ทได้ แต่พวกเขาจะได้รับอนุญาตให้สูบบุหรี่ได้ทุกที่บนพื้นที่แคลิฟอร์เนีย (เลี่ยงกฏหมายเห็นๆ)
Tyson Ranch จะมีสถานที่จัดงานเทศกาล และกิจกรรมล่องในสายน้ำที่ยาวที่สุดในโลก (จะใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง) รวมถึงโรงแรมหรูหรา ที่มีรายงานว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการก่อสร้าง
หากรีสอร์ทกัญชาหรูหราไม่เพียงพอไทสันก็ตั้งใจที่จะเปิดตัวมหาวิทยาลัยไทสันเพื่อสอนผู้มาเยือนถึงวิธีปลูกกัญชา เขาหวังว่าผู้ที่ชื่นชอบกัญชาและกัญชาจะออกไปด้วยความมั่นใจและชุดทักษะเพื่อเริ่มปลูกพืชสมุนไพรของตนเอง ในที่สุดไทสันมุ่งมั่นที่จะใช้ฟาร์มปศุสัตว์เพื่อ“ วัตถุประสงค์การวิจัย” เนื่องจากเขามีการลงทุนในอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น
เมโทรรายงานว่างานเริ่มต้นในฟาร์มปศุสัตว์ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับน้ำพุร้อน Desert ในปี 2560 ในการให้สัมภาษณ์กับ Cannabis Tech วันนี้ Tyson เปิดเผยวิสัยทัศน์ของเขา เขากล่าวว่า“ ผมคิดว่าผมจะทำดีที่สุดโดยการช่วยเหลือผู้คนที่ชื่นชอบกัญชาซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย” และในไม่ช้าความฝันของเขาก็จะกลายเป็นจริง
ก่อนหน้าที่ยังไม่ได้สร้างอาณาจักรกัญชา ไทสัน เป็นของรายการพ็อดคาสท์ Hotboxin และเมื่อเร็ว ๆ นี้ไทสันปรากฏตัวในรายการ Good Morning Britain ในฐานะแขก เขามอบถุง Goody ที่มีธีมคล้ายวัชพืชจากฟาร์มปศุสัตว์ของเขาให้กับเพียร์มอร์แกนซึ่งต่อมาก็เขียนไว้ในคอลัมน์ของเขาว่า “ ไม่ว่าคุณจะถกเถียงเรื่องกัญชาในประเด็นไหน - ผมคิดว่ามันอันตรายน้อยกว่าแอลกอฮอล์หรือบุหรี่”
ข้อมูลจาก truththeory
Page 2 of 4